นิทานพื้นบ้าน เรื่อง
หมาน้อยอธิษฐาน
กาลครั้งหนึ่งหมาน้อยผู้ซื่อสัตย์ตัวหนึ่ง ตั้งชื่อมันว่าไอ้ด่างละกัน มันกำลังนอนอยู่ใต้ถุนบ้าน พอตกดึกทุกคืนมันจะเห็นพระจันทร์สวยสง่ายามราตรี มันจึงคิดในใจว่าหากมีโอกาสขอพรศักดิ์สิทธิได้สักข้อ
อยากจะขอเกิดเป็นดวงจันทร์ แล้วหมาน้อยก็พันหลับไป
ความฝันที่อยากเป็นโน้นเป็นนี้ก็สัมฤทธิ์ผลตามปรารถนาก็เกิดเรื่องขึ้นเมื่อหมาน้อยได้ร่องลอยอยู่บนฟ้าเป็นดวงจันทร์ แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อค่ำคืนทุกคืนนั้นท้องฟ้าไม่ได้มีแค่ดวงจันทร์ ยังมีดวงดาว
มีเมฆลอยอยู่ด้วย
วันเวลาทำให้หลายครั้งเมฆมักจะลอยมาบังจันทร์ทำให้ไม่สามารถส่องแสงถึงโลกได้ จากความคิดที่หมาน้อยอยากจะเป็นดวงจันทร์จึงได้อธิษฐานต่อว่าตนไม่อยากเป็นดวงจันทร์อีกแล้ว
ขอเป็นเมฆน้อยดีกว่าจะได้ลอยไปลอยมาบนท้องฟ้าได้สะดวก เมื่อพรสัมฤทธิ์ผล จึงกลายร่างเป็นเมฆ คอยบดบังแสงพระจันทร์ แสงพระอาทิตย์
ดูยิ่งใหญ่ดีจริง
แต่มาวันหนึ่งมีลมแรงพัดมาทำให้เมฆไม่สามารถควบคลุมการลอยบนฟ้าได้อย่างใจคิด ลมเป็นเหตุให้เมฆเคลื่อนไปตามกระแสแห่งลม จึงทำให้เกิดความไม่พอใจในพรที่ขอแล้ว จึงขอเปลี่ยนพรจากเมฆมาเป็นลมจะได้คอยพัดสิ่งต่าง
ๆ ได้ดังใจ
เมื่อเริ่มลำพองในฤทธิ์แห่งตนจึงเที่ยวพัดเอาสิ่งต่าง ๆให้ปลิวไปกับแรงที่ตนพัด มาถึงจอมปลวกกลางทุ่งนา ลมจึงพยายามพัดให้ปลิว แต่พัดเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำลายจอมปลวกให้ปลิวไปได้จึงเกิดความเครียดแค้น ถ้างั้นขอพรเป็นจอมปลวกน่าจะดีสุดเพราะมันแข็งแรงเหลือเกิน พอตนเองกลายเป็นจอมปลวกดังใจหมาย
มันก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อควายหนุ่มวัยคะนองวิ่งเอาเขาไล่ขวิดจอมปลวกจนพังทลาย เป็นควายมันแน่แท้มีพละกำลังมหาศาล จึงขอพรข้อต่อมาให้ตนกลายเป็นควายหนุ่มผู้คะนอง
ด้วยความพยศของควายจึงถูกเจ้าของล่ามเชือกไว้กับเสาบ้าน
มาถึงตอนนี้ควายไม่สามารถไปไหนตามอำเภอใจได้แล้ว เชือกเส้นเล็กนิดเดียวล่ามควายได้ เชือกช่างร้ายจริงๆ จึงขอพรให้ตนกลายเป็นเชือกอีกหน
เมื่อตนสัมฤทธิ์พรดูจะมีความสุขกับการล่ามควาย มันก็เกิดเรื่องขึ้นอีกจนได้ หนูบ้านตัวหนึ่งมันแอบมากัดเชือกเล่นจนเชือกขาดเป็น
2 ท่อน
ช่างน่าแค้นใจเหลือหลาย
วันนั้นพรขอต่อมาจึงกลับกลายเป็นหนูผู้ชอบกัดแทะสิ่งของ วิ่งทำลายสร้างความเดือดร้อนภายในบ้าน
โชคดีที่บ้านหลังนี้มีแมวผู้ปราบหนูใช้ความสามารถตะปบหนูกิน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุให้พรที่ขอไม่รู้จบมาถึงร่างแมว
เมื่อกลายเป็นแมวสมใจ
เขาเที่ยวเดินอวดความสง่าไปทั่ว
ลงจากบันไดบ้านเจอกับคู่อริ คือ
หมา จึงวิ่งหนีไม่คิดชีวิต เพราะหมามันน่ากลัวกว่าที่คิด
สุดท้ายพรทั้งหมดได้จบลงที่การคืนร่างกลายเป็นหมาดังเดิม หมาน้อยกลับมาคิดทบทวนว่าเราเป็นเรานี้แหละดีที่สุด
บทสุดท้ายนิทานกลับหวนกลับมาจุดเดิม
คือ จะเป็นอะไรก็ไม่เท่ากับเป็นตัวของตัวเอง เมื่อเจ้าหมาน้อยตื่นจากฝัน
จึงได้รู้ว่าความสุขที่สุดในชีวิตไม่ใช่ฝันอยากเป็นคนนั้นคนนี้
แต่มีความสุขที่สุดที่ได้เกิดเป็นตัวเองและทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ ใช้ความสามารถที่ตนมีตามวิถีแห่งตน
ชีวิตนี้จะไม่ขอเป็นอะไรอีกแล้ว
แล้วเจ้าหมาก็ใช่ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป
นิทานนี้เป็นนิทานพื้นบ้านที่แฝงคติธรรม ฟังพ่อเล่าให้ฟังตอนผู้เรียบเรียงยังเด็ก ๆ
เอามาเล่าต่ออีกครั้ง หวังว่าน้อง ๆ จะมีความสุขกับนิทานพื้นบ้านเรื่องนี้
ชื่อเรื่องอาจมีหลายชื่อตามแต่ละถิ่นแต่เนื้อหาส่วนใหญ่ก็เหมือนกันสอนไว้ในเรื่องการรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง
ฝากไว้เป็นนิทานก่อนนอนอีกเรื่องนะครับ
เรียบเรียงสำนวนใหม่โดย
พยัคฆ์กูรู
วันที่โพส
15/09/2557
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น